วันเสาร์, ธันวาคม 28, 2562
01:19
[클로저스] สปอยเนื้อเรื่อง ตัวละคร มิเร PART III
01:19
คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือไม่
จุนวูเล่าให้ฟังว่า สิ่งที่ยูเนี่ยนทำมันขัดกับพระเจ้า ตัวเขาจะชี้นำให้ถูกต้องเอง
มิเร : ส่งตัวเด็ก ๆ คืนมา
จุนวู : มาร้องเพลงกันดีกว่า เพื่อฉลองแด่การกำเนิดใหม่
ไข่ของปิศาจต่างมิติข้าง จุนวู
ฟักตัวออกมา เป็น.........
จุนวูชื่นชมปิศาจต่างมิติรูปร่างคล้ายหญิงสาว ว่างามตานัก
เมื่อปิศาจต่างมิติมองมาที่จุนวู อ้ะ นั่นเมเนเจอร์ใช่ไหม ( ผู้จัดการ )
ฉันอยากเป็นไอดอล แล้วเปิดการแสดงจังเลยค่ะ ( คุ้น ๆ ประโยคนี้ใช่ไหม )
ใช่แล้ว ชื่อของฉันคือ ไซฟริด
มิเรปะทะกับไซฟริด
ไซฟริดเรียกคนที่จะทำร้ายไอดอลว่า แอนตี้แฟน
แต่ไซฟริดหนีไปได้พร้อม จุนวู
มิเร, มินซูฮยอน, อ่างเก็บน้ำ, และ โอเซรินไปดักหน้าจุนวูที่สนามบินนานาชาติ
ไม่ให้จุนวูหนีไปได้
ณ สนามบินนานาชาติ
ความปลอดภัยของยูเนี่ยน มีที่ไหน
ปล่อยให้ไอ้จุนวู ไปลักพาตัวเด็กถึงโรงพยาบาล
ยูฮานา นางพยาบาล
เลยรวบรวมกลุ่มเพื่อนคาลบักออกตามหาจุนวู
แต่ด้วยพลังของไซฟริดมีพลังเสน่ห์ ใครโดนก็หลงจนโงหัวไม่ขึ้น
กลุ่มเพื่อนคาลบัก เลยกลายเป็นภาระของกลุ่มตัวเอก ต้องมาตบเรียกสติคืน
จากช่วยเรียกมาตามหาเด็ก กลายเป็นภาระของสังคม
เพราะกลุ่มเพื่อนคาลบักต่างหลงเสน่ห์ไซฟริด แล้วสร้างความปั่นป่วนทั่วสนามบินนานาชาติ
ยูฮานาเรียกน้องรักคามิลล่ามาช่วยตามหาเด็ก คามิลล่า คงเก่งพอที่ไม่โดนสะกดจิต
มิเร & คามิลล่า ปะทะ จุนวู & ไซฟริด
จุนวูบอกให้ไซฟริดจัดการคามิลล่าระยะใกล้ เมื่อไซฟริดจับตัวคามิลล่าได้
ไซฟริด : มองตาฉันสิจ๊ะ (
คามิลล่า : อะ อ๊า~~~~~~~~ ท่านไซฟริด
คามิลล่า กลายเป็นภาระของกลุ่มตัวเอกแล้ว
แทนที่จะตามจับจุนวู มิเรและพรรคพวก ต้องมาตบเรียกสติกลุ่มเพื่อนคาลบักและคามิลล่า
เมื่อคามิลล่า หลุดจากเสน่ห์ของไซฟริด เธอก็โผเข้ากอดยูฮานาแล้วร้องไห้
เซลินเปิดเผยว่า เมื่อก่อนคามิลล่าเคยเป็นเด็กธรรมดา แต่เพราะพลังวัฏภาคตื่นขึ้นมา
แล้วควบคุมไม่ได้ ผลจากพลังนั้นฆ่าสมาชิกครอบครัวของเธอหมดทุกคน
มินซูฮยอน วิเคราะห์ว่า ไม่ควรต่อสู้กับไซฟริดด้วยคนจำนวนมาก เพราะอาจโดนเสน่ห์ได้
แล้วบาดแผลในใจจากอดีต ก็เร่งให้ไซฟริดใช้เสน่ห์ควบคุมได้ง่ายขึ้นด้วย
มินซูฮยอนรู้ว่ามิเร ควบคุมเงาได้ก็ถามถึงขอบเขตความสามารถ
ตอนแรกมิเรควบคุมเงาได้ แต่มันไม่ได้ดังใจ และ บังคับรูปร่างไม่ได้
จับมิเรฝึก จนควบคุมเงาตัวเอง ไปแทรกแซง เงาของวัตถุอื่นได้
ถ้าศัตรูเก่งกว่า พวกเราต้องฝึกฝน วางแผนและวิเคราะห์ให้ดี
TIP สกิลของมิเร จะมีคอมเม้นของมินซูฮยอนด้วย
การต่อสู้ครั้งนี้ มิเรดวลกับ ไซฟริด & จุนวู
จุนวูชวนมิเรมาร้องเพลงด้วยกัน ( จุนวู ไอ้หมอนี่มันคลั่งลัทธิโพรฟอิเด้น )
เอาล่ะ จากนั้นก็ท่องบทสวดเพื่อชำระจิตใจ
มิเร : ......................
ที่แกทำตัวแบบนี้ ก็เพราะว่า จับพวกเด็ก ๆ ให้ปิศาจต่างมิติกินแล้วใช่ไหม
มิเรใช้เคียว ฟาดจุนวู แต่ไซฟริดมาขวางไว้
แผนของมินซูฮยอนก็คือ ต้องการรู้ว่า พวกเด็ก ๆ ที่โดนลักพาตัวไปยังมีชีวิตอยู่ไหม
ถ้าถามไปตรง ๆ ยังไงจุนวูก็ต้องเฉไฉแน่นอน ฉะนั้น การหลอกถามจึงดีที่สุด
จุนวูตอบว่า ไม่มีทาง ผมไม่มีทางกินพวกหนูแดงสกปรกนั่นแน่นอน
ไซฟริดก็ด้วยใช่ไหม
ไซฟริด : ใช่เลยเมเนเจอร์ ไอดอลอย่างฉันไม่มีทางกินของสกปรกเด็ดขาด
ถ้ากินของสกปรกก็จะท้องเสีย แล้วทำงานไม่ได้
ยิ่งหนูเด็ก ๆ จากเกาะขยะแล้วด้วย ไม่เด็ดขาด
มินซูฮยอนคิดว่า อย่างน้อยเด็ก ๆ น่าจะมีชีวิตอยู่
มิเรต่อสู้กับไซฟริด คมของเคียวบาดหน้าไซฟริดจนเป็นแผล
ไซฟริดโกรธจัด ใช้เคียวนั้นฟันมิเรจนปางตาย
มิเร : มิเร นี่ตัวฉัน กำลังจะตายเหรอเนี่ย ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย
มิเรโดนเล่นงานจนสลบแต่ไม่ตาย
เหตุการณ์ระหว่างที่มิเรหมดสติ
ไซฟริดตบหน้า จุนวูอย่างแรง เมเนเนอร์ทำแบบนี้ได้อย่างไร
เพราะเมเนเจอร์สั่งงานแบบนี้ ทำให้หน้าของไอดอลมีแผล
แล้วแบบนี้จะไปพบแฟน ๆ ได้ยังไง ต้องรอให้หายดีก่อนถึงเปิดเวที
ไว้คราวหน้าฉันจะฆ่าหนูสกปรกอย่างแก
จุนวู : ครับ ท่านไซฟริด
หน่วยพยาบาลมาถึง ยูฮานา รักษาอาการปางตายของมิเรได้ทันที
( อึดมากเลยหนู )
มิเรขอให้โอเซลิน ปลดลิมิตเตอร์ให้ แต่ด้วยฐานะของโอเซลิน ไม่อาจปลดลิมิตเตอร์ให้ได้
มินซูฮยอน ผมมีแผนแล้วล่ะ
การต่อสู้ครั้งสุดท้าย
ฉากนี้แปลมันมาก
มินซูฮยอนไปกับมิเร เพื่อที่จับตัวจุนวูและไซฟริดให้ได้
จุนวูกล่าวว่า นี่พวกแกยังไม่เข็ดอีกเหรอเนี่ย
มินซูฮยอน บอกว่า ให้มิเรทิ้งระยะห่างจากไซฟริด
จุนวู นี่พวกแกเล็งไปทางไหนกัน พลังแค่นี้ไม่อาจชนะท่านไซฟริดได้
มินซูฮยอน ที่เล็งน่ะ ไม่ใช่ไซฟริดต่างหาก
เพดานอาคารถล่มลงมาทับไซฟริด
ไซฟริดโวยวาย ถึงเศษปูนจะทำอะไรเธอไม่ได้ แต่ด้วยฝุ่นที่ฟุ้งไปทั่ว
ส่งผลให้ตัวและเสื้อผ้าของเธอสกปรก ไซฟริดกังวลเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตา
เพราะตัวเธอสกปรกทำให้เสียสมาธิ
ตอนนี้จุนวูแยกกับไซฟริดแล้ว จากเศษปูนขนาดใหญ่ของเพดานอาคาร
ไซฟริดปัดเคียวของมิเร ทิ้งออกไป จุนวูพูดจาเยาะเย้ยทั้งคู่
มินซูฮยอน : เป็นไปตามแผน ตอนนี้แหละ มิเร
มินซูฮยอน สั่งให้มิเรใช้เงาแทงทะลุท้อง จุนวู ( กะฆ่าชัด ๆ เลย )
เพราะจุนวูคิดว่า เมื่อมิเรไม่มีเคียว ก็ไร้พิษสงแล้ว แต่ความจริงคือไม่เลย
แผนของมินซูฮยอน คือ ทำให้เพดานถล่มลงมา ด้วยเศษฝุ่น ก่อนให้เกิดเงามากมาย
ผลจากการฝึกฝน มิเรสามารถแแปลสภาพเงา เป็นอาวุธได้
เงาของมิเรแทรกผ่านกองเศษปูน และแทงทะลุจุนวู จนจมกองเลือด
โดยที่ไซฟริดไม่อาจป้องกันได้ทัน
แผนของเขาก็คือ เก็บคนสั่งการไซฟริด นั่นคือ จุนวู
ที่เพดานถล่มลงมา ก็เพราะต้องการแยกไซฟริดออกจากจุนวู
ใช่แล้ว มินซูฮยอน เขาคือ แว่นโฉด
ไซฟริดสับสน เพราะว่า เมเนเจอร์โดนเสียบจนคลุกฝุ่นจมกองเลือด
ด้วยสภาพที่ไม่น่าดูนั้น ไซฟริดก็บินหนีไป
มินซูฮยอน เอาล่ะ ผมรวบตัวจุนวู ( อาการปางตาย ) ได้แล้ว
แว่นโฉดรีบลากตัวจุนวูออกจากพื้นที่ แล้วบอก มิเร ตามตัวไซฟริดไป
การต่อสู้ครั้งสุดท้าย ( จริง ๆ นะ )
มิเรสู้กับไซฟริดตัวต่อตัว โดยที่ไม่มีจุนวูสั่งการไซฟริด
ไซฟริดหัวเสียที่มิเรเหวี่ยงของอันตรายแบบนั้น คนที่จะทำร้ายไอดอลคือ แอนตี้แฟน
ไซฟริดไม่ให้อภัยแอนตี้แฟนเด็ดขาด
โดยพลังที่เหนือกว่า ไซฟริดปัดเคียวมิเรทิ้งไปข้างหลังเธอ
แล้วเอามือคว้าคอมิเรเอาไว้ เอาล่ะจะฆ่าแกยังไงดีน้า
หลังมินซูฮยอนพาตัวจุนวูออกไป ก็ติดต่อกับ มิเรผ่านเสียงอย่างเดียว
มินซูฮยอน : ตอนนี้โดนคว้าคอแล้วใช่ไหม ทำตามแผนเลย!!
มิเรใช้เงาลากเคียวมาแทงข้างหลังไซฟริด
ไซฟริดร้องกรี๊ด ทรุดไปกองกับพื้น เพราะท้องของเธอโดนแทงทะลุเป็นรู
ชนิดมองเห็นอีกด้านได้ ไซฟริดโวยวายว่า เมเนเจอร์ฉันควรทำอย่างไรดี
เมเนเจอร์! เมเนเจอร์! เมเนเจอร์!
แว่นโฉด : เป็นไปตามแผน เพราะข้างหลังนี่แหละไร้การป้องกัน อาศัยจุดอ่อนที่ว่า ถ้าศัตรูไม่มีอาวุธในมือแล้วก็คงทำอะไรไม่ได้
อาศัยความประมาทของศัตรู ฉวยโอกาสเอาไว้
มิเร ตอนนี้แหละเผด็จศึกเลย
มิเร : ย้าก~~~~~!!
มิเรเหวี่ยงเคียวหวังจะฆ่าไซฟริด แต่ทว่า ไซฟริดใช้มือจับด้ามเคียวไว้ได้
ไซฟริด : นี่แน่ะ!!
ไซฟริดเหวี่ยงเคียว จนทะลุคาท้องของมิเร เคียวปักคาอยู่อย่างนั้น
มินซูฮยอน : มินซูฮยอน มิเรตอบด้วย เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้น
มิเร : ท้องฉันเป็นรู มีเคียวติดอยู่
มินซูฮยอน : รีบควบคุมเงาอุดปากแผลห้ามเลือดซะ จากนั้นรีบถอนตัวด่วน เดี๋ยวกำลังเสริมจะมาแล้ว
มิเร : ไม่ได้ เงาไม่ทำตามคำสั่งแล้ว
มินซูฮยอน : โถ่โว้ย
มิเร : มิเร นี่ตัวฉัน กำลังจะตายเหรอเนี่ย ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย
( หนูพูดอย่างนี้มาสองรอบแล้วนะ )
ไซฟริด เดินโซเซหมายจะฆ่ามิเร แต่ทว่า กำลังเสริมมาแล้วจ้า
อ่างเก็บน้ำและมินซูฮยอน ดัดแปลงอาวุธของกลุ่มเพื่อนคาลบัก
เป็นปืนใหญ่พลังไฟฟ้า โดยอาศัยพลังไฟฟ้าจากคามิลล่า
เล็งยิงไซฟริดจากระยะไกล
อ่างเก็บน้ำ : เอาล่ะ คามิลล่า รีบประจุไฟฟ้าแล้วแยกมิเรจากไซฟริด
ปืนพลังไฟฟ้า เกิดจากแผนของมินซูฮยอนเช่นกัน
คนธรรมดาถ้ามีอาวุธก็สู้กับปิศาจต่างมิติได้ เขาจึงให้อ่างเก็บน้ำเป็นกำลังเสริม
หลังจากโดนยิงหลายนัด ดูเหมือนว่าไซฟริดจะหายตัวไป
มิเรบาดเจ็บสาหัส ต้องรีบส่งโรงพยาบาล แต่โอเซลินห้ามไว้เพราะไซฟริดอาจจะบุกเมืองได้
ประชาชนต้องเดือดร้อนแน่ ๆ
เอาอย่างนี้ เราจะใช้ รีเวิร์สวีล ยานของทีมวายฮูเตอร์ รีบพามิเรไปรักษาตัวที่เยอรมันด่วน
เพราะที่นั่นเป็นโรงงานยา และ นักวิจัย วิทยาการแพทย์ และระบบป้องกันอย่างดี
โอเซลิน พามิเรไปรักษาตัวที่เยอรมัน
--------------------------------
จากบทของทีมหนู เจอตัวละครที่ชอบแล้ว นั่นคือ มินซูฮยอน ชื่อเล่นแว่นโฉด
สายเชือดแม่ทัพคนสั่งการทิ้งก่อน
ถ้าเป็นเรื่อง fate หมอนี่สายเชือด master
มี servant กากแล้วไง ข้าเชือดมาสเตอร์ทิ้งอย่างเดียว
ไซฟริดกับจุนวู มาด้วยกัน แล้วตาแว่นรู้ข้อมูลว่า จุนวูเป็นคนออกคำสั่งไซฟริด
ตาแว่นก็สั่งมิเร เก็บจุนวูก่อนเลย ( กะฆ่าให้ตายด้วย )
ถ้าหัวหน้าไม่มีลูกน้องเก่งแค่ไหนก็หมดท่า
วิเคราะห์ความสามารถพวกตัวเองและศัตรู
สอบถามการต่อสู้ของมิเร และ ศัตรู ถามรายละเอียดต่าง ๆ
สังเกตบทสนทนา
อาศัยจุดอ่อนของศัตรู สร้างความได้เปรียบ พร้อมหลอกถามข้อมูล
เมื่อแว่นโฉดรู้ว่ามิเร ควบคุมเงาได้
ก็ถามถึงขอบเขตความสามารถ
ตอนแรกมิเรควบคุมเงาได้ แต่มันไม่ได้ดังใจ และ บังคับรูปร่างไม่ได้
จับมิเรฝึก จนควบคุมเงาตัวเองไปแทรกแซงเงาของวัตถุอื่นได้
เจ๊คิม, เทรนเนอร์, อลิส, โวฟกัง ในเกมไม่เคยมีฉากรู้ถึงขอบเขตพลังของคนอื่น
ทำแค่หน้าที่สั่งการว่าโคลสเซอร์ต้องทำอะไร
ส่วนจะชนะศัตรูหรือไม่ อาศัยดวง + ความสามารถของโคลสเซอร์ก็แล้วกันนะ
แต่แว่นโฉดเหนือกว่านั้นเพราะ
ถามขอบเขตของพลังแล้วจับฝึกฝนด้วย, พร้อมยังมีแผน 1 2 3 4
เมื่อรู้ว่าสู้ไม่ได้ ก็สั่งถอยทันที เพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ก่อน แล้วหาทางเอาคืนทีหลัง
ในเกมแว่นโฉด ทำหน้าที่เป็น NPC ขายของ คิดว่าคงอยู่ยาว ๆ ไม่ตายง่าย ๆ
อยากเห็นแว่นโฉดคุมทีมแกะหมาจริง ๆ อยากรู้ว่าถ้าแว่นโฉดได้คุมโคลสเซอร์เก่ง ๆ
จะโหดแค่ไหน
เพราะตอนนี้ทีมแกะ หมา ไม่มีคนคุมทีม เพราะเจ๊คิมยังไม่ได้สติเลย
