หมั่นไส้ Naddic games ตรงที่กล้าแซะตัวเองนี่แหละ
อีเว้นท์ที่รวมความกาว, ขำจนปอดโยก, ปวดตับ และการแซะตัวเองของผู้พัฒนาเกม รวมหมดในอีเว้นท์เดียว
เจ็บตัวน้อยที่สุดคือการแซะตัวเอง
แซะระบบ แซะตัวละคร Easter eggs ข้ามเซิฟเวอร์
พวกนายก็รู้นี่นาว่าผู้เล่นบ่นเรื่องอะไร แล้วก็เอาเรื่องนั้นมาแซะตัวเอง
ช่างดื้อตาใสเสียจริง
1 วันสามารถจบเควสได้แค่ 1 ตัวละครเท่านั้น
แต่เราก็พยายามเข็นความกาวออกมาให้มากที่สุด
จงทิ้งสามัญสำนึกและสมองก่อนอ่านเนื้อเรื่อง
สรุปเนื้อเรื่องอีเว้นเมษาโกหก 2020 สั้น ๆ
( ดำน้ำบางส่วน )
ลีบรินาวางแผนจัดงาน April fool's day แต่ยังหาความคิดดี ๆ เพื่อจัดงานไม่ได้
เธอขอคำปรึษาจากโวฟกัง จากประสบการณ์ของเขา ถูกโกหกเรื่องได้ลางานเพิ่ม
มันเป็นความทรงจำแสนเจ็บปวด
ลีบรินายกตัวอย่างการโกหก ข้านี่แหละคือเค้าท์ดี
ข้าเตรียมที่นั่งพิเศษให้ผู้ชมอย่างเจ้าแล้ว ไปโลด
โวฟกังโดนวาปมาที่โรงเรียนมัธยมชินกัง
โวฟกังบ่นว่าเหมือนหัวจะระเบิด เพราะดื่มกาแฟมากเกินไป หรือโดนศัตรูโจมตีกันแน่
ตอนนั้นเอง เขาพบกับอลิสมาต้อนรับเขา แล้วบอกว่าอาจารย์โวฟกังมาที่โรงเรียนแล้ว
อาจารย์ตัวจริงเสียงจริงอย่างโวฟกัง
รบกวนช่วยประเมินการสอนของครูในโรงเรียน และสอนเด็กที่โรงเรียนด้วย
โวฟกังตกกระไดพลอยโจนเป็นอาจารย์ ณ โรงเรียนมัธยมชินกัง
ครูคนแรก ครูพละศึกษา มีซุก
การสอนของครูพละมีซุกนั้นดิบเถื่อนมาก
เธอสอนเรื่องกีฬา ไม่สิ ต้องเรียกว่าต่อสู้ต่างหาก
วิธีสอนการเล่นเบสบอลที่ใช้อุปกรณ์ตีลูกเป็นท่อแป๊ปเหล็ก
เด็ก ๆ เมื่อเจอครูพละแบบนี้ ต่างก็หมดสภาพ
โวฟกังบ่นว่า เล่นเหวี่ยงท่อแป๊ปเหล็กไปมาแบบนี้
ไม่แปลกใจเลยว่าโรงพละจะพังพินาศแค่ไหน
เธอต้องหัดออมมือและประเมินความสามารถของเด็ก ๆ ด้วย
เมื่อเดินสำรวจโรงเรียน โวฟกังพบนักเรียนชั้น ม.5 ชื่อคิมเจอร์รี่
โวฟกังตกใจที่คิมเจอร์รี่เป็นเด็ก ม.5 นั่นนายหมดวัยเรียนแล้วนะ
เจอร์รี่แย้งว่า นักวิจัยอย่างตัวเขา ตลอดชีวิตของเขาคือการเรียนรู้
แล้วที่โรงเรียนมัธยมชินกัง ก็มีหลักสูตรพิเศษที่ไม่เหมือนใคร
เจอร์รี่ชงกาแฟให้เขา โวฟกังบอกว่า ที่ชงกาแฟรสเลิศให้เขา
เพราะนายต้องการความช่วยเหลือใช่ไหม เจอร์รี่บอกว่าใช่
เขาโดนรุ่นพี่ ม.6 กลั่นแกล้ง ด้วยจรรยาบรรณของอาจารย์
โวฟกังรับปากจะช่วยเจอร์รี่เอง
แล้วรุ่นพี่ ม.6 โผล่มา รุ่นพี่คนนี้คือเทรนเนอร์
เทรนเนอร์บอกว่า เขาไม่ได้ตั้งใจจะกลั่นแกล้งเจอร์รี่
เขาแค่สนใจหนอนที่เจอร์รี่เลี้ยงไว้ อยากจะคุยเป็นเพื่อนด้วย
ตัวเขาอยากจะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงสักตัว
เมื่อก่อนไม่ว่าจะเป็นตัวอะไร เมื่อได้เห็นหน้าเขาต่างก็แตกตื่นหนีหายหมด
แม้กระทั่งเพื่อนร่วมชั้นเรียน ที่ได้เห็นหน้าแม้ตัวเขาไม่ทันได้พูดอะไรก็กลัวจนฉี่ราดวิ่งหนีทันที
วิชาคหกรรม แค่เขาหยิบมีดมาทำอาหาร เพื่อนร่วมชั้นเรียนและครูก็ทุกคนก็วิ่งหนี
จนทำให้คาบเรียนวิชานั้นต้องยกเลิก
เขาไม่อยากให้ห้องเรียนเสียบรรยากาศ จนไม่กล้าเข้าเรียนวิชาใด ๆ
โวฟกังบอกว่าปัญหาของนายช่างหนักอกหนักใจจริง ๆ
มานี่ เดี๋ยวอาจารย์โวฟกังจะเปิดสอนวิชาพัฒนาบุคลิกภาพแบบส่วนตัว
ถ้าได้เห็นความจริงใจของนาย เพื่อน ๆ ต้องมองข้ามหน้าตาของนายแน่นอน
ไม่ว่านายจะเรียนวิชาอะไร อาจารย์โวฟกังคนนี้จะอยู่เป็นเพื่อนแทน
โวฟกังส่งเทรนเนอร์เข้าเรียนวิชาต่าง ๆ พร้อมอยู่เป็นเพื่อนและอธิบายให้เด็ก ๆ คนอื่นฟัง
และสอนวิชาพัฒนาบุคลิกภาพแก่เทรนเนอร์
เขาประเมินว่า เทรนเนอร์ดีขึ้นมากและหาเพื่อนวัยเรียนได้
ถึงแม้ว่าการยิ้มของเทรนเนอร์มันอาจจะดูน่ากลัวไปนิดนึง
" ขอบคุณมากครับ อาจารย์โวฟกัง " เทรนเนอร์กล่าว
**หมายเหตุ**ถ้าเล่นเป็นทีมนก กลุ่มที่ 2 ฝั่งนักเรียน ตัวละครที่เราเล่นบอกกับคิมเจอร์รี่ว่า
" ใครก็ตามที่มันแกล้งนาย ฉันจะซัดมันให้คว่ำเอง "
เมื่อเจอกับเทรนเนอร์สารภาพความในใจ ตัวละครที่เราเล่นก็รับปากว่า จะเป็นเพื่อนคนแรก แล้วชวนไปเข้าเรียนด้วยกัน
ชื่อเสียงวิชาพัฒนาบุคลิกภาพของโวฟกังนั้นโด่งดังทั่วโรงเรียน
นักเรียนคนต่อไปที่มาขอคำปรึกษาก็คือ นักเรียนชั้น ม.6
ฮึกจีซู( ยินดีด้วย ในที่สุดร่างโคลนของอัลฟ่าควีน ก็มีชื่อเรียกเสียที )
ถึงฉันจะเป็นร่างโคลนนิ่งของผู้ใหญ่วัย 37 ปี แต่ฉันก็เกิดมาได้แค่ปีกว่าเท่านั้น
ตลอดทั้งชีวิตอยู่แต่ในห้องทดลองรอวันตาย เพิ่งหนีออกจากห้องทดลองมาเผชิญโลกภายนอกได้ไม่นาน
ตัวฉันจำเป็นต้องเรียนรู้เรื่องพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน
ฮึกจีซู ปรึกษาปัญหาชีวิตกับโวฟกัง ว่าด้วยเรื่อง
"
มันผิดด้วยหรือ ที่คนอายุมากอย่างฉัน อยากจะเป็นไอดอล ร้องเพลงบนเวที "
แต่มันน่าอายที่จะออกไปเต้นและร้องเพลงคนเดียว
โวฟกังเปิดสอนวิชาพัฒนาบุคลิกภาพ เพิ่ม่ความมั่นใจแด่ฮึกจีซู
เมื่อหมดเวลาชั้นเรียน ก็มีเสียงตามสาย ประกาศเรียก อาจารย์โวฟกังไปพบผู้อำนวยการโรงเรียน
ฉันชื่ออันนา เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมชินกัง
โวฟกังประหลาดใจว่า ทำไมเด็กตัวเล็ก ๆ อย่างเธอเป็นผู้อำนายการโรงเรียนได้
อันนาบอกว่า ไม่เห็นจะแปลกใจเพราะว่าผู้ใหญ่คนอื่น ๆ ก็เป็นนักเรียนที่นี่ได้เช่นกัน
" ไม่จำเป็นต้องช่วยเด็กที่อยู่ตรงหน้านี้หรอกนะ "
โวฟกังฉงนใจว่าอันนาพูดเรื่องอะไร แต่ด้วยจรรยาบรรวิชาชีพครู
ตัวเขายอมทิ้งวันลาพักร้อนทั้งหมด เพื่อช่วยเด็ก ๆ อยู่แล้ว
อันนายิ้มเศร้า ๆ แต่แล้ว ดร. เจโมรี่ก็แหวกมิติออกมา
ดร. เจโมรี่เหน็บว่า ถ้าไม่มีฉันพลังต่อสู้ทั้งหมดของนายก็ต่ำเตี้ยเรี่ยดินอย่างนั้นแหละ
เจโมรี่เฉลยว่าโลกใบนี้คือโลกแห่งความฝัน ที่อยู่บนพื้นฐานความฝันของใครสักคน
แล้วคนหลาย ๆ คนที่โวฟกังเจอก็ฝันร่วมกับโวฟกัง
เจโมรี่ออกสำรวจและวิจัย จนพ้นสาเหตุว่า ต้นเหตุคืออันนา
อันนาขอให้โวฟกังยกโทษให้เธอ
เพราะเธออยากสร้างโลกที่ผู้ใหญ่ได้รับการสั่งสอนและอยู่ร่วมกับเด็ก ๆ ได้
โวฟกังบอกว่า ไม่เป็นไร เธอไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องผู้ใหญ่
เพราะตัวเขานั้นจะปกป้องเด็ก ๆ อย่างเธอ ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร
ผมก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ ก็เพราะว่าผมนั้นเป็นครูของพวกเด็ก ๆ ไงล่ะ
ก่อนที่ ดร. เจโมรี่ จะพาโวฟกังออกจากโลกแห่งความฝัน เขาบอกลาอันนา
แล้วทิ้งท้ายไว้ว่า
" แล้วเจอกันใหม่ "
ณ วิจัยของลีบรินา โวฟกังตื่นขึ้นมาขณะนั้นเองก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
ฮึกจีซูโทรมาโวยวาย "
ฉันฆ่านายแน่ ถ้านายรู้ว่าฉันอยากจะทำอะไร "
โวฟกังเฉไฉว่าฮึกจีซูพูดไม่รู้เรื่อง ตอนนี้ตัวเขากำลังทำงานอยู่ ( อย่าไปเชื่อ อีตานี่โกหก )
แล้วรีบวางสายอย่างรวดเร็ว
โวฟกังนายไปแทรกระหว่างเนื้อเรื่องของคนอื่นนี่ทำตัวเรื้อนมาก
แต่พอเนื้อเรื่องหลักของนายเอง หัวใจนายหล่อมาก
สมแล้วที่หล่อเสียของจริง ๆ